
KIMETSU
NO YAIBA
Chapter 3
“ตายจริงคุณทันจิโร่ ทำไมอุณหภูมิร่างกายถึงได้ร้อนขนาดนี้ อาโออิ ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาเร็ว”
สาวผู้มีเรือนผมสีดำและสีม่วงเข้มตรงปลายผมก็รีบมาเช็คอาการคนไข้ที่นอนอยู่หลังจากไปทำภารกิจระดับสูงมา หญิงที่ถูกขานชื่อจึงรีบไปเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ก่อนจะยื่นให้เจ้านายเช็ดหน้าตากับลำคอพยายามลดอุณหภูมิให้มากที่สุด แต่แล้วพอเช็ดไปได้แปปเดียว ความร้อนก็กลับมาเยือนอีกครั้งทำให้ผู้เป็นหัวหน้า แผนกพยาบาลต้องรีบทำอะไรสักอย่าง
“พวกเธอ ตอนที่ไปทำภารกิจกัน คุณทันจิโร่ได้ทำอะไรหรือเปล่าคะ? เพราะดูจากอาการแล้วมันไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาน่ะค่ะ”
ชิโนบุหันไปถามอีกสองคนที่กำลังยืนดูเพื่อนอีกคนที่นอนเหงื่อไหลไม่หยุด
“ตอนพวกเราสู้กันอยู่ก็สู้กันแบบปกตินะ แต่คงเป็นเพราะอสูรตนนั้นเป็นธาตุดิน กระบวนท่าของทันจิโร่ที่เป็นธาตุน้ำเอาชนะไม่ได้ ก็เลย....”
“ก็เลยอะไรคะ?”
เมื่อน้ำเสียงของชิโนบุเริ่มเข็มขึ้นก็ทำให้ชายผมเหลืองสะดุ้งขึ้นมาทันทีก่อนที่เสียงจะเริ่มสั่น
“ทะ ทันจิโร่ก็เลยใช้กระบวนท่าระบำเทพอัคคีไปครับ!!!”
“ระบำเทพอัคคี....อย่างนี้นี่เอง”
หลังจากที่ที่ได้ฟังทั้งหมดก็ทำให้ข้อสงสัยกระจ่างออกไป ชิโนบุจึงสั่งให้คนของเขาไปทำยาพิเศษขึ้นมาก่อนจะหันไปอธิบายอีกสองคนที่คนนึงทำหน้าจะร้องไห้
“เพราะแต่เดิม กระบวนท่าของคุณทันจิโร่เป็นธาตุน้ำ ทำให้ธาตุในตัวที่เป็นธาตุไฟไม่ได้ออกอาการอะไรมาก แต่การที่เขาใช้ ‘ระบำเทพอัคคี’ ไปก็เหมือนกับกำลังทำลายความสมดุลย์ของน้ำและไฟในตัว เพราะฉะนั้นถึงได้มีอาการเป็นอย่างนี้ ถ้าเขาไม่หาวิธีรับมือกับธาตุทั้งสองธาตุ มันคงจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองด้วยค่ะ”
“แต่ธาตุน้ำชนะธาตุไฟไม่ใช่หรอ?”
อิโนสึเกะที่ดูเหมือนจะเข้าใจมากกว่าอีกคนที่คำสีหน้างุนงงราวกับว่าเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจจึงได้ถามต่อ
“ใช่ค่ะ แต่ในกรณีนี้ กระบวนท่าธาตุน้ำที่คุณทันจิโร่ใช้ในแค่บางช่วง มันไม่สามารถชนะ ระบำเทพอัคคี ได้ แต่กลับกลายเป็นจุดประกายไฟให้มากกว่าเดิม คราวก่อนที่สามารถใช้สู้กับครอบครัวแมงมุมได้ คงเป็นเพราะเขาได้ใช้กระบวนท่าธาตุน้ำเยอะ ทำให้พอใช้ ระบำเทพอัคคีเสร็จ ไฟถึงดับลง”
“โถ่..ทันจิโร่....นายอย่าพึ่งตายน้าา ถ้านายตายไปปป เดี๋ยวฉันดูแลเนสึโกะเองงง”
เซ็นนิตสึเดินเข้าไปหาคนที่ดูเหมือนจะยังไม่ได้สติก่อนจะเอาหน้าฟุบลงไปบนเตียงคนไข้แล้วร้องไห้ออกมา
“ทันจิโร่...นายเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ...ฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณของ..นาย โถ่เว้ย!!!”
คราวนี้อิโนสึเกะก็ดันร้องไห้ตามบรรยากาศ และพลางคิดไปไกลว่าอีกคนคงจะสิ้นหายใจไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ น้ำตาของลูกผู้ชายยังคงไหล่ออกมาจากข้างในหัวหมูป่าก่อนที่จะเริ่มหยุดไม่ได้
“นี่พวกคุณคะ!! ถ้าจะมารบกวนคนไข้ก็เชิญออกไปข้างนอกด้วยค่ะ!! อีกอย่างเขาก็ยังไม่ตายค่ะ! คุณชิโนบุคะ ทำไมให้ห้ามพวกเขาละคะ!”
“ขะ ขอโทษที แต่พวกเขาดูรักกันมากเลย”
ไม่ทันไรชิโนบุก็กลั้นขำไม่ไหวจึงหลุดหัวเราะออกมา ซึ่งก็ต้องทำให้คนที่พึ่งไปทำยามาต้องมาไล่อีกสองคนที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดทั้งๆที่บอกไปแล้วว่ายังไม่ตาย
“ถ้างั้นอาโออิ ฉันฝากดูแลอาการต่อด้วยนะ เดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะมาหาใหม่”
“รับทราบค่ะ”
หญิงทรงทวินเทลกล่าวก่อนที่จะไปทำยาตัวอื่นต่อหลังจากได้รับให้คอยเฝ้าดูอาการของคนที่ยังนอนไม่ได้สติ พอเวลาผ่านไป อาโออิที่ยังคงทำยาอยู่ในห้องเฝ้าคนไข้ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันไปมองเพราะคิดว่าคงเป็นเจ้านายของตน
“สวัสดีค่ะ คุณโทมิโอกะ”
อาโออิที่ไม่ได้คิดว่าเสาหลักอย่าง โทมิโอกะ กิยู จะมาหาจึงรีบลุกขึ้นแล้วโค้งตัวกล่าวแสดงความนับถือ
“อาการเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีกว่าเมื่อเช้าค่ะ”
ด้วยที่ว่ากิยูเป็นคนไม่ค่อยถนัดเรื่องพูดคุยอยู่แล้วมันยิ่งทำให้อาโออิเริ่มที่จะอึดอัดและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
“จริงสิ... คุณโทมิโอกะคะ พอดีฉันยังไม่ได้ทำยาเพิ่มให้กับคุณทันจิโร่เลย รบกวนฝากเฝ้าอาการแทนดิฉันด้วยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยเช็ดตัวให้เขาด้วยนะคะ”
ถึงมันจะเป็นการรบกวนแต่อาโออิก็ยังคงขอร้องอีกฝ่ายเพราะตอนนี้มีแค่เขาคนเดียวที่อยู่ในสำนักพักฟื้น
“เข้าใจแล้ว”
“ขอบคุณมากค่ะ”
อาโออิกล่าวลาก่อนจะปล่อยให้คนผมสีดำคอยเฝ้าอาการต่อไป กิยูที่จู่ๆก็ได้รับภารกิจก็ทำตามที่อีกฝ่ายได้ขอไว้ เขาเดินเข้าไปหยิบผ้าผืนเล็กที่ตากอยู่แล้วเอามาชุปกับน้ำที่ได้เตรียมเอาไว้ บิดน้ำออกให้หมดก่อนจะเอาผ้าที่เย็นไปเช็ดตามคอ ด้วยน้ำที่มีความเย็นก็ทำให้คนที่นอนรู้สึกตัว แต่พอได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์จึงลืมตาขึ้นมามอง
“อะ...คุณกิยู”
ทันจิโร่ที่พึ่งได้สติขึ้นมาก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาเหมือนเดิม พอรู้สึกว่าอาการดีขึ้นก็ทำให้คนผมแดงลืมตาได้เต็มสองตาก่อนที่สีหน้าปกติจะกลับมาอีกครั้ง
“จริงๆด้วย ยาของคุณชิโนบุนี้ดีมากๆเลยละ”
เมื่อยาได้ออกฤทธิ์เสร็จ ก็ทำให้อีกฝ่ายมีแรงฮึดขึ้นมาเหมือนกับปกติ ก่อนจะเช็คร่างกายตัวเอง
“อย่าพึ่งขยับ”
กิยูพูดขึ้นหลังจากที่ได้เห็นคนพึ่งได้สติกำลังดีใจยกใหญ่ก่อนที่จะเอามือเข้าไปแตะลำคอเพื่อดูอุณหภูมิ
“ยังร้อนอยู่”
“อะ..จริงด้วย...แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยรู้สึกแล้วด้วยสิ”
คนผมดำที่พึ่งเช็ดคอไปก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อมันไม่มีผลอะไรเลยที่จะทำให้อุณหภูมิลดลง และด้วยที่ว่าความคิดที่ว่ามันคงไม่มีประโยชน์ถ้าจะใช้น้ำเช็ดตัวเพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“แต่ว่านะ— คะ คุณกิยูครับ จะทำอะไรน่ะครับ!?”
ทันจิโร่ถึงกับต้องร้องเหวอออกมาเมื่อดันโดนอีกฝ่ายจับกดลองไปนอนเตียงอีกครั้ง
“ดะ เดี๋ยวสิครับ!!”
“ใจเย็นก่อนทันจิโร่”
“จะให้ใจเย็นได้ยังไงกันครับ!?”
ไม่ทันไร ทั้งๆที่อาการเริ่มดีขึ้นแล้วแท้ๆแต่กลับต้องมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเมื่อคนที่โดนจับกดอยู่หน้าแดงเถือกทั้งหน้ายันใบหู ทันจิโร่ยังคงตกใจไม่น้อยเลยที่จู่ๆก็โดนจับกดและอีกฝ่ายยังขึ้นมาคร่อมตัวเองอีก ยังคงเดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรต่ออีก แต่ก็ต้องช็อคทันทีที่คนที่อยู่เหนือกว่าดันเล็งเข้าไปตรงซอกคอและก็ได้รับรู้ถึงความเปียกชื้นทันที แน่นอนสิ่งที่กิยูกำลังทำอยู่มันทำให้ทันจิโร่ต้องขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย
“อ่า.. คะ คุณกิยูครับ มะ ไม่เอาครับ มันเย็น...”
เมื่อสิ่งที่กิยูคิดไว้ได้ผลขึ้นมาจึงทำต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะครางออกมาแค่ไหน นอกจากซอกคอแล้วเขายังคงเลื่อนขึ้นมาทำตรงใบหูเล็กๆต่อ
“อ๊ะ.. คุณกิยู..พ พอเถอะครับ ผมไม่ไหวไว้”
กิยูที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหยุดก่อนจะทำหน้างุนงงออกมา ก่อนที่ทันจิโร่จะได้หายใจพักเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องมาตกใจอีกทีเมื่อโดนรุกรานราวกับเป็นยกที่สอง อยากที่อ่อนเพลียเมื่อกี้ทำให้ตื่นขึ้นมาทันทีกับการที่โดนอีกฝ่ายเจ้ามาจูบต่อ และมิหนำซ้ำยังโดนต้อนอีกด้วย เมื่อเวลาลิ้นของทั้งคู่โดนกันทีไรก็ทำให้ทันจิโร่เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอกิยูได้ถอนตัวออกมาดูอาการตามที่สั่งไว้ก็ต้องถึงกับไปไม่ถูก สีหน้าของคนที่นอนอยู่กำลังนอนตาลายแลดูเหมือนจะไม่ได้สติอีกครั้ง ทั้งๆที่คิดว่าทำถูกแล้วกลับทำให้มันแย่กว่าเดิม กิยูจึงลองใช้วิธีแรกเช็ดตัวใหม่อีกครั้งแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำต่อก็ได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้น
“ขอรบกวนหน่อย....เดี๋ยวก่อนสิคะ! ทำไมอาการมันแย่กว่าเดิมอีกละคะ!”
อาโออิที่ได้ทำยามาเพิ่มเตรียมตุนเอาไว้ก็ต้องตกใจที่ได้เห็นสีหน้าของคนที่หมดสติกลับมาแดงอีกครั้ง คนผมดำที่ไม่รู้จะทำอะไรจึงถอยห่างออกมาแล้วให้พยาบาลมารักษาแทน ด้วยที่เสียงของอาโออิดังมากเพราะความตกใจ ชิโนบุที่กำลังเดินมาก็ต้องรีบมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะได้เห็นสีหน้าของชายผมดำที่เหงื่อตกเล็กน้อย
“ตายแล้วคุณโทมิโอกะ มาทำอะไรที่นี่คะเนี่ยแล้ว...ทำไมคุณทันจิโร่ถึงอาการนักกว่าเมื่อเช้าอีกละคะ?”
“.....”
“หวังว่าคุณคงไม่ได้เข้าไปเป่าหูกดดันคุณทันจิโร่เกี่ยวกับเรื่องงานหรอกนะคะ?”
ชิโนบุเดินเข้าไปถามพร้อมกับรอยยิ้มของเธอซึ่งเธอก็รู้ว่ายังไงอีกฝ่ายก็คงไม่สบตาเธอ
“จะเรื่องอะไรก็ชั่งเถอะค่ะ!! เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการเอง! อาจจะเสียมารยาทแต่กรุณาช่วยออกไปให้คนไข้ได้พักด้วยเถอะค่ะ!!!”
อาโออิพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้เสียมารยาทกับเสาหลักทั้งสองก่อนจะปิดประตูทันทีเมื่อทั้งสองหันหลังให้กับประตูห้อง
“เห็นไหมละคะ โดนดุเลย เพราะคุณทามิโอกะนั้นแหละค่ะ”
หญิงผู้มีผีเสื้อบนหัวถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินนำหน้าไป ทิ้งให้คนที่ท่าทางจะไม่มีผลกระทบอะไรยืนนึ่งอยู่สักพักก่อนจะทำหน้างุนงงออกมา
‘ทำไมกันละ...?’