
KIMETSU
NO YAIBA
Chapter 2
“ขอบคุณ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ”
ยายเฒ่าผู้นึงได้กล่าวขอบคุณหลังจากที่เล่านักล่าอสูรได้กลับมารายงานตัวเกี่ยวกับการกำจัดอสูรที่ออกล่าในแถบตะวันตก ไม่ใช่แค่ยายเฒ่าที่ออกมาขอบคุณแต่กลับมีประชาชนที่อาศัยอยู่แถวนั้นก็ออกมาขอบคุณเช่นกัน หลังจากเกิดการหายตัวไปของเด็กๆอายุ 5-10 ปี ทำให้ผู้ที่เป็นพ่อและแม่ต่างก็หวาดกลัวว่าลูกของตนจะเป็นเป้าหมายในทุกๆคืน ทำให้แทบไม่มีใครกล้าที่ออกมา แต่โชคดีที่ข่าวเกี่ยวกับอสูรตนนี้ได้ถูกรายงานไปยังสำนักล่าอสูร ทำให้พวกเขาได้ส่งสามหนุ่มที่มีประสบการณ์ทำงานเป็นทีมไปล่าอสูรตนนั้น
หลังจากที่ได้ทำภารกิจเสร็จสิ้น สามหนุ่มต่างก็อวยพรให้พ้นอันตรายจากอสูรและไปทำความเคารพกับศพของครอบครัวที่เสียหายก่อนจะอำลาหมู่บ้านเล็กๆและเดินเข้าเมืองที่มีสีสันมากมายและผู้คนที่คึกคัก
“ท ทำไมท้องฟ้าถึงสว่างทั้งๆที่มันกลางคืนกัน!!?”
ชายที่สวมหน้ากากหมูป่าทักขึ้นเมื่อได้เข้ามายังตลาดที่มีโคมไฟล้อมรอบและยังคงทำตัวกระวนกระวายเมื่อกำลังสับสนว่าจริงๆแล้วมันกลางวันหรือกลางคืนกันแน่ เอาตามตรงทันจิโร่ก็เคยพูดแบบนี้ตอนที่เดินผ่านตลาดครั้งแรกซึ่งตอนนี้เขาก็ยังคงสับสนเหมือนกับคนที่แตกตื่นอยู่
“นี้พวกนาย...ฉันเข้าใจนะว่าพวกนายไม่รู้จักรถไฟไอน้ำ แต่นี้มันตลาดกลางคืนนะเฟ้ย!!!!!”
คนที่ดูเหมือนจะเป็นมนุษย์มากที่สุดก็เป็นใครไม่ได้นอกจากชายที่พึ่งตะโกนงอแงไปตอนที่กำลังจะออกเดินทางมาทำภารกิจครั้งนี้ แต่พอทำงานเสร็จและยังมีเวลาเหลือก็ทำหน้าระรื่นก่อนจะพูดออกมา
“แย่จังเลยเนอะ~ ครั้งนี้เสร็จเร็วหน่อย.....ไปเดินดูตลาดกันเถอะะะ!!!”
ก่อนที่จะลากเพื่อนๆอีกสองคนที่ยังทำหน้างุนงงว่าป่านนี้แล้วตลาดมันจะเปิดหรือไง...ซึ่งก็ต้องทำให้คนที่ไม่เคยมาตลาดกลางคืนอย่างอิโนะสิเกะต้องร้องออกมาว่า ‘มันมีจริงๆด้วย!!’ ก่อนจะทำตัวเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง
“อย่าเดินไปไหนไกลละ”
น่าแปลกที่คนเอาแต่แหกปากงอแงอย่างเซ็นนิตสึต้องมาเป็นพี่เลี้ยงดูแลอีกสองคนที่ดูเหมือนจะซุกซนและตื่นเต้นกับตลาดกลางคืน
“โหหหห!!! มะ มีของกินขายด้วยยย!! พวกเขาไม่นอนกันหรือไง!?”
หน้ากากหมูป่าที่ตอนนี้เริ่มเป็นสีแดงแสดงถึงความตกใจและตื่นเต้นที่จะลองเข้าไปก็โดนคนผมเหลืองเข้ามาห้ามก่อนที่จะทำให้คนอื่นๆแตกตื่นกลัวกับการที่มีคนใส่หน้ากากหมูป่าพุ่งเข้าไป
“นี่พวกนาย ทำตัวดีๆกันหน่อยสิ ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วนะ ฉานนอยากมาเที่ยววววว!! แงงงง—“
ก่อนที่เซ็นนิตสึจะได้ตะโกนเพราะหมดความทน ทันจิโร่ที่เริ่มรู้พฤติกรรมของอีกฝ่ายจึงรีบเข้าไปปิดปากไม่ให้ตะโกนก่อนที่จะกลายเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆ
“เข้าใจแล้วๆ ไปเดินดูของกันเถอะ”
ทีนี้ก็กลายเป็นคนผมสีแดงที่พยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายก่อนจะเดินนำหน้าไป อิโนะสึเกะที่เห็นอย่างนั้นก็พยายามเก็บเสียงแต่ก็ยังคงหันหัวไปมาระหว่างเดินตามถนน
ทั้งสามต่างก็เดินกันไปเรื่อยๆและพอเห็นบางร้านก็หยุดและเลี้ยวเข้าไปดูของต่างๆก่อนจะทำการซื้อของติดไม้ติดมือไป
“ทันจิโร่ นายเลือกของเสร็จยัง?”
เซ็นนิตสึเอ่ยถามออกมาก่อนที่จะเอาของที่หยิบมาไปจ่ายเงิน คนผมแดงจึงขานกลับไปและหยิบขนมโมจิรสถั่วแดงน้ำตาลน้อยแล้วเอาไปจ่ายเงิน
“นี่อิโนะสึเกะ นายซื้อเยอะไปหรือเปล่าเนี่ย..”
คนผมเหลืองชายตามองถุงกระดาษที่อีกฝ่ายกำลังหอบ ถึงแม้ว่าถุงมันเยอะแค่ไหนแต่เขาก็กลับถือมันได้อย่างสบายๆ
“ฉันซื้อไป....ใช่! ฉันซื้อเป็นของที่ระลึก! ใครจะไปรู้ละว่าจะได้มาเดินในตลาดแปลกๆนี่อีก!! ฮ่าๆๆ”
“ก็บอกว่าตลาดกลางคืนไงง...เฮ้อ แต่ว่านะ ทันจิโร่ นายจะซื้อแค่อย่างเดียวจริงๆน่ะหรอ? เราไปเดินดูตรงอื่นก็ได้นะ?”
“ฉันว่าไม่ดีกว่า เราไปพาที่พักกันเถอะ พรุ่งนี้ออกแต่เช้าเราจะได้ถึงสำนักคืนพรุ่งนี้เลย”
ทันจิโร่พูดออกมาเหมือนกับว่าได้วางแผนสำหรับคืนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว พอเดินไปสักพักก็ได้มาเจอกับที่พักราคาถูกจึงอาศัยและพักผ่อนให้พร้อมก่อนจะออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น
‘ช่วงนี้เนสึโกะดูเงียบๆนะ’
ชายผู้สะพายกระเป๋าไม้ขนน้องสาวไปทุกที่ก็ได้สังเกตว่าคนที่อยู่ในกระเป๋าไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิดตั้งแต่เดินทางออกมาจากเมือง
‘หรือว่ากำลังนอนทดแทนอาการหิวกันนะ?’
ทันจิโร่ที่รู้สึกเคยชินกับการที่น้องตัวเองนอนหลับข้ามเดือนข้ามปีเลยพยายามที่จะไม่จะรบกวนมาก เพราะเขารู้ดีว่าน้องของตนพยายามมากแค่ไหน ทั้งๆเป็นอสูร เลือดมนุษย์ก็คล้ายๆกับสารอาหารที่ต้องได้รับเป็นประจำ แต่เนสึโกะกลับเลือกที่จะหาวิธีอื่นเพื่อไม่ให้สัญชาตญาณของอสูรถูกครอบงำแทน
ในที่สุดทั้งสามก็สามารถกลับมายังสำนักล่าอสูรก่อนที่ดวงจันทร์จะลับฟ้าไป ต่างคนต่างก็เข้าไปยังที่พักฟื้นนักล่าอสูรเพื่อไปทำบาดแผลและตรวจร่างกายว่าพร้อมที่จะไปทำภารกิจต่อไปหรือไม่ ทันทีที่ทันจิโร่ได้ตรวจเสร็จก็อุ้มน้องสาวของตนออกมาจากกระเป๋าไม้แล้วพายังเตียงนอนที่อยู่ห้องใต้ดินเพื่อไม่ให้แสงมาถูกในยามเช้า
“ฝากดูแลเนสึโกะด้วยนะครับ”
คนผู้เป็นพี่ได้กล่าวบอกกับ คันซากิ อาโออิ , หญิงสาวฝ่ายหน่วยพยาบาลที่มีดวงตาสีน้ำเงินกับทรงผมทวินเทล, ที่แลดูมักจะเข้มงวดและเคร่งครัดกับเรื่องยามากๆ
“เข้าใจแล้ว”
อาโออิบอกให้อีกฝ่ายรู้ก่อนจะเดินขึ้นไปเตรียมยาสำหรับอีกสองคนที่เหลือ พอรู้ว่าน้องสาวได้ถูกดูแลแล้วใจนึงก็หายห่วงขึ้นมา และอีกใจนึงก็กลับรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา
ถ้าไปตอนนี้เขาจะนอนแล้วหรือยังนะ..?
ทันจิโร่ที่ตัดสินใจไม่ถูกก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้มาหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์ที่เงียบสนิทและเหมือนจะไม่มีคนอยู่อีก....เอาจริงๆก็มีอยู่แค่คนเดียว
ในเมื่อมาถึงแล้ว เข้าไปทักทายนิดๆหน่อยๆ เอาของฝากไปให้ แล้วก็กลับ คงจะไม่มีอะไรมากที่ต้องให้กังวล ซึ่งมันก็ทำให้คนที่คิดอยู่ก็มีความกล้าว่าแผนในหัวของตัวเองจะผ่านไปราบรื่น.....
.
.
.
“ไปอาบน้ำก่อน”
“ครับ??”
คนผมแดงทำหน้าอึ้งเล็กน้อยเมื่อสิ่งที่ตัวเองคิดกลับไปคนละทิศคนละทางเลย ด้วยความที่ว่าไม่ได้มีแผนสำรองเลยทำตัวไม่ถูก และด้วยที่ว่าไม่รู้จะต้องทำยังไงจึงวางของฝากบนพื้นในห้องก่อนจะรีบทำตามคำสั่งแบบงงๆ
อ่อ...เราพึ่งกลับมาจากภารกิจนิเนอะ ต้องอาบน้ำ ต้องอาบน้ำ...
ไม่รู้ว่าเขาคิดตื้นเกินไปหรือว่าบื้อจริงๆที่พยายามคิดบวกอยู่ตลอดเวลา แล้วพอกลับเข้าไปในห้องก็พบกับฟูกที่นอนผืนใหญ่ถูกปูเอาไว้พร้อมกับหมอนสองอันและชายอีกคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือฆ่าเวลา
..จริงสิ...ที่นี่มีแค่คุณกิยูที่อยู่เดียวนิ...คงจะเหงาน่าดูเลย ไม่มีเพื่อนมานอนด้วย... อืมๆ เข้าใจๆ...
หารู้ไม่ว่าตั้งแต่ที่คนพึ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะเหยียบเข้าไปในห้องนั้น เขาจะไม่มีวันได้ออกมาเลย...อย่างน้อยก็คืนนี้
“อื้อ—”
ไม่รู้เพราะอะไร สิ่งที่เคยคิดก่อนจะเข้าหน้าประตูคฤหาสน์กลับไม่มีอะไรเป็นเหมือนที่เป็นตอนนี้เลยสักนิด ทันจิโร่ร้องเสียงครางในลำคอออกมาเมื่อถูกอีกฝ่ายรุกเข้ามาทันทีเมื่อปากแตะกัน ในโพรงปากเล็กๆกลับมีลิ้นสองอันกำลังประชิดและถูไถไปมาจนต้องทำให้คนหน้าหวานเริ่มที่หายใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ ม่านตาสีแดงถูกเคลือบด้วยน้ำตาใสก่อนจะค่อยๆไหลลงมาเมื่อโดนอีกฝ่ายรุกเข้ามาเรื่อย มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยเพราะมันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่บอกชอบไป ทันจิโร่พยายามที่จะหนีความรู้สึกเหล่านั้นแต่กลับถูกชายผมสีดำต้อนจนมุมไม่ให้พัก มือของร่างสูงก็ค่อยๆซุกเลื้อยเข้าไปในใต้เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเหมือนรู้งาน
“อื้อ...”
และก็เป็นอีกครั้งที่ทันจิโร่ต้องครางออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นครอเพราะว่าตอนนี้ผมของชายร่างสูงกำลังถูเข้าไปกับแก้มนุ่มๆระหว่างที่กำลังซุกไซร้ตรงคอและสร้างรอยต่างๆ
“อ่า..คะ คุณกิยู..อื้ออ—”
คนผมแดงร้องออกมาอีกครั้งเมื่อจู่ๆก็ได้รับรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนต้นคอของเขา เสียงครางของเขาเริ่มถี่ขึ้นเมื่ออีกฝ่ายกำลังทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อน
“ตะ ตรงนั้น..ไม่เอา คะ คุณกิยูครับ...ไม่เอาตรงนั้นครับ!”
คนที่นอนแนบอยู่กับพื้นเริ่มที่จะต่อต้านความรู้สึกบนยอดอกที่กำลังโดนคนที่คร่อมอยู่รุกรานและกลั่นแกล้ง ยิ่งบอกว่าห้ามเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งทำมันมากขึ้น กิยูที่รู้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้จึงล็อกข้อมืออีกฝ่ายไม่ให้มาห้ามก่อนจะเริ่มเม้มเบาๆบนเม็ดทับทิมสีชมพูสดและใช้ลิ้นถูวนไปเรื่อยๆ คอยฟังเสียงอีกฝ่ายร้องขอเพื่อที่จะปลุกอารมณ์ให้ตื่น
“คุณกิยู!! มะ ไม่เอา...อื้อออ~”
น้ำตาเริ่มไหลลงมาเรื่อยๆพร้อมกับสีหน้าที่แดงก่ำของคนหน้าหวานที่ยิ่งบอกให้หยุดเขาก็ยิ่งทำมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้อยากรับรู้และในตอนนี้ก็กำลังถูกบังคับให้รับรู้ซะงั้น เสียงของทันจิโร่เริ่มสั่นครอเรื่อยๆเมื่ออารมณ์มันมาถึงที่สุด กิยูที่รู้สึกได้จึงหยุดเล่นและเข้าไปประคองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ขอโทษ”
เขาพูดขึ้นก่อนจะเข้าไปจูบอีกรอบและรุกนักกว่าเดิม ทีนี้คนผมแดงกลับเป็นฝ่ายโหยหวนและเริ่มที่จะตอบรับ
“ช่วย..ทำให้รู้สึกดีกว่านี้ทีครับ...”
กิยูถึงกับตกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหน้าหวานที่กำลังเคลิ้มไปกับรสจูบและต้องการมากกว่านี้
“เอาลิ้นออกมาสิ”
ทันจิโร่ที่ได้ยินอย่างนั้นจึงยอมเอาลิ้นออกมาอย่างว่าง่ายก่อนจะโดนลิ้นของอีกฝ่ายเข้าไปแตะเบาๆกลางอากาศแล้วอมมันเข้าไปในปากตัวเองก่อนจะเริ่มที่จะดูดลิ้นของอีกฝ่ายเพื่อทำให้แนบเนื้อมากขึ้นกว่าก่อน แน่นอนสิ่งเหล่านั้นได้ตอบสนองความต้องการของคนที่ขอเป็นอย่างดี และในเมื่อคนร่างสูงพยายามทำให้ดีที่สุดก็ได้ถูกแลกมาด้วยเสียงครางที่พอใจของอีกฝ่ายในลำคอ พอถึงเวลาเหมาะสม กิยูจึงค่อยๆปริปากออกแล้วมีน้ำสีใสเป็นตัวเชื่อมได้ขาดและไหล่ลงไปตรงมุมปากของคนที่กำลังรู้สึกเคลิ้ม
ทีนี้กิยูเริ่มที่จะขยับร่างกายและเปลี่ยนท่านั่ง เขากำลังจับต้นขาของคนที่นอนอยู่แล้วชูมันขึ้นทั้งสองข้าง เผยให้เห็นท่อนล่างที่เปลือยเปล่าและรูสีแดงสดที่กำลังต้อนรับเขา ทันจิโร่ที่รู้สึกได้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไรก็ทำหน้าเหวอออกมาก่อนจะเข้าไปห้าม
“มะ ไม่ได้นะคุณกิยู....”
“ไม่ต้องห่วง”
น้ำเสียงที่ดูเรียบเฉยของกิยูทำให้รู้ว่าเขากำลังเข้าใจผิด ทันจิโร่ไม่ได้ต้องการให้เขาหยุดก็จริง แต่ว่าการที่เอานิ้วเข้ามาสอดมันเป็นอะไรที่ไม่ได้มีอยู่ในหัวเลย และอีกอย่างมันก็มีอีกตั้งหลายอย่างให้ทำแต่ทำไมถึงต้องเป็นตรงนั้น ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ กิยูไม่รอช้าก็ได้สอดนิ้วเข้าไปพร้อมกันไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว เสียงร้องของผู้ถูกกระทำดังขึ้นออกมาดังลั่นก่อนที่จะเริ่มหายใจเร็วกว่าเดิม
“เงียบๆสิ”
“กะ ก็คุณ....”
คนหน้าหวานพยายามที่จะพูดออกมาแต่มันก็ยากเกินไป พอกิยูเริ่มรับรู้ถึงความแน่นขึ้นเรื่อยๆจึงเอานิ้วที่สอดไปออกมาจากรู ซึ่งมันก็มีน้ำสีขุ่นออกมาพร้อมกับร่องนิ้ว คนที่นอนอยู่เมื่อเห็นน้ำสีขุ่นติดออกมาด้วยจึงพยายามห้ามอีกฝ่ายแต่มันก็ไม่สำเร็จ
“ไม่เป็นไร ฉันไม่รังเกลียดหรอก”
ชายผู้มีเรือนผมสีดำก็ได้เอานิ้วที่พึ่งถอดออกมาเข้าปากไปแล้วดูดโชว์คนที่กำลังหน้าแดงเถือกบนพื้น สีหน้าของคนผมแดงอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นการกระทำของคนตรงหน้า ถึงจะบอกว่าไม่รังเกลียดก็เถอะ แต่นี้มันก็เกินไปนะ....
“มาเริ่มกันเถอะ”
เมื่อทำเสร็จชายร่างสูงก็เริ่มที่จะตั้งท่าใหม่ซึ่งก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกไม่ดี
“ดะ เดี๋ยวสิครับ....คุณกิยู”
ก่อนที่ทันจิโร่จะได้พูดอะไรต่อ คนผมดำก็สอดท่อนแข็งของเขาเข้าไปในรูสีแดงเมื่อกี้ ด้วยที่ขนาดนั้นต่างอย่างเห็นได้ชัด คนที่นอนยังไม่ได้ตั้งตัวอะไรก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากกับขนาดที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“อ๊าาา—”
เมื่อรู้ตัวว่าเสียงที่ร้องออกไปมันดังเหมือนเมื่อกี้ ทันจิโร่จึงต้องรีบปิดปากตัวเองไม่ให้เสียงมันออกมาอีก แต่ก็ต้องถูกมือของอีกฝ่ายมาบังออก
“ไม่เป็นไร..ร้องออกมาเลย”
เป็นคำพูดที่ฟังดูนุ่มนวลมากซึ่งมันก็ทำให้คนผมแดงต้องเอามือที่ปิดอยู่เปิด เพื่อให้ลดความทรมารกิยูจึงเข้าไปจูบอีกรอบก่อนจะเข้าไปซุกในคอของคนที่เหงื่อท่วมตัว ความรู้สึกผ่อนคลายเริ่มมาครอบงำคนที่นอนอยู่ มือที่เคยแนบอยู่กับพื้นตอนนี้เริ่มที่เข้าไปสอดแนบกับเส้นผมที่เงายาว
...นานๆทีจะได้เห็นคุณกิยูไม่ได้หมัดผม...
มือทั้งสองข้างๆค่อยเข้าไปลูบไล้ผมที่นุ่มก่อนจะหลับตาเคลิ้มไปกับการที่ถูกเม้มบนคอ
“สะ เสร็จยังครับ...”
หลังจากที่ถูกแช่ได้สักพัก ความรู้สึกเจ็บปวดก็เริ่มหายไปเมื่อทำความคุ้นชินกับขนาดที่เปลี่ยน แววตาของคนที่นอนอยู่เริ่มที่จะค่อยๆปิด แสดงถึงอาการเหนื่อยล้า กิยูจึงยอมถอนตัวตนออกมาแล้วลูบไล้ตามโครงหน้าของอีกฝ่าย
“คราวหน้าเราค่อยมาต่อกัน”
“อื้อ...”
ทันจิโร่พยักหน้าเบาๆก่อนจะเริ่มเคลิ้มไปกับมืออุ่นๆที่มาจับบนแก้มของเขา ก่อนที่จะได้หลับสนิท กิยูก็เข้าไปประทับรอยจูบบนหน้าผากก่อนจะกระซิบข้างใบหูเล็กๆ
“ขอบคุณสำหรับของฝาก ราตรีสวัสดิ์”
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่คนผมแดงได้ยินรวมถึงริมฝีปากที่มาประทับบนหน้าผากของตัวเองด้วย
ถึงแม้ว่าไม่ได้เห็นก็ตาม...แต่ก็รับรู้ได้ว่ากลิ่นของคุณกิยูในตอนนี้มันช่างอบอุ่นและอ่อนโยนมากๆเลย....